แผนการสอนตามหลักปรัญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยนั้น
เป็นปรัชญาการดำเนินชีวิตที่มุ่งสร้างความสมดุล และไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท ซึ่งมีความสอดคล้องกับการดูแรรักษาสุขภาพร่างกาย
จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของมนุษย์ด้วย
ที่จะดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ภายใต้ 3 ห่วง 2
เงื่อนไข ดังนี้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ภายใต้ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข
|
การสอนพลศึกษา
เพื่อดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ
โดยใช้กิจกรรมทางพลศึกษาเป็นสื่อ
|
1. พอประมาณ คือ การรู้ตน ทำสิ่งใดก็ตามให้พอเหมาะพอสมกับฐานะอัตภาพ
|
1.
ให้ผู้เรียนมีการพัฒนาการตามวัย ดูแลรักษา
สุขภาพกายและจิตใจของตนเองได้
2.
ผู้เรียน สำรวจตนเองด้านการกิน อยู่ หลับนอน ออกกำลังกาย ในชีวิตประจำวันได้เหมาะสมตามสภาวะของสุขภาพที่จะเอื้ออำนวย
3.
ผู้เรียน เรียนรู้และเข้าใจถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นแก่ร่างกาย
ทั้งที่มีเชื้อโรคเป็นสาเหตุ หรือเกิดจากความผิดปกติของร่างกายตนเองก็ตาม
4.
ผู้เรียน ปรับตัวเข้ากับสภาพของสังคมที่เปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเป็นไปตามกติกา
ระเบียบสังคม
5.
ผู้เรียน รู้ถึงความบกพร่อง เกณฑ์สมรรถภาพทางกายที่เป็นอยู่
ควรได้รับการพัฒนาเสริมสร้างให้ คงสภาพ หรือการดำรงอยู่ของชีวิตที่ยืนยาว
|
2. มีเหตุผล คือ
ใช้สมอง สติปัญญา คิดวิเคราะห์ ไตร่ตรอง พิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมและดีที่สุด
สำหรับตนที่จะนำพาการดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้องและนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
|
1.
ทางด้านสุขภาพและจิตใจยังมีการหลงเชื่อในสิ่งที่ไม่ถูกต้องอีกหลายเรื่อง
ดังนั้นผู้เรียนต้องใช้สมอง สติปัญญา พิจารณา ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง อย่างมีเหตุผล เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพตนเองได้ตามหลักวิชาการ
หรือทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้
|
3. มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี
คือ
ความไม่ประมาทในการที่จะกระทำสิ่งใดๆ ก็ตาม
ต้องหามาตรการป้องกันไว้ก่อนที่จะเกิดอันตรายร้ายแรง
|
1.
สอดคล้องกับความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตประจำวัน ที่ต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ที่เกี่ยวข้องและรู้ถึงเหตุได้ชัด
ด้านสุขภาพร่างกาย การออกกำลัง ต้องคำนึงถือความปลอดภัย เป็นสำคัญ
ตั้งแต่สำรวจความพร้อมของร่างกาย มีโรคประจำตัวหรือการเจ็บป่วยเดิมหรือไม่ ถ้ามีต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
หรือตรวจสอบชุดเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับกีฬา
|
|
หรือการออกกำลังกายชนิดนั้น ๆ การตรวจสอบวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้เล่นกีฬา
ออกกำลังกาย ให้อยู่ในสภาพพร้อม
ใช้งาน ไม่เกิดอันตราย
รวมทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน ด้านอุบัติเหตุจากการจราจร ความปลอดภัยในการประกอบอาชีพ โรคที่เกิดจากการทำงาน สิ่งดังกล่าวมาแล้ว ทั้งหมด
ต้องมีภูมิคุ้มกัน คือ ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
|
เงื่อนไขที่สำคัญ
1. ความรู้ คือ
มนุษย์เราต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และตลอดชีวิต
ซึ่งจะทำให้มีความรอบรู้ รอบคอบ
ระมัดระวัง ไม่หลงเชื่ออะไรง่าย ๆ
โดยต้องลงมือศึกษาให้รู้แจ้งเห็นจริงในเรื่องนั้น ๆ ก่อนที่จะลงมือทำจริง
|
ปลูกฝัง สร้างเจตคติที่ดีด้านคุณลักษณะ (Trait) สุขนิสัย (Habit) ที่มีอนามัย (Hygiene) เพื่อการรักษาสุขภาพกายและจิตใจ ให้ดำรงอยู่ในสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง
ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บรวมทั้งอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
อันมีความหมายตรงกับ สุขภาพ (Health) อีกทั้งยังตรงกับจุดมุ่งหมายของ การศึกษาแห่งชาติ ที่มุ่งสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นคนดี คนเก่ง
และมีความสุข เพื่อการเป็นพลเมืองดีและ พลเมืองโลก
|
2.
คุณธรรม คือ ความซื่อสัตย์สุจริต
ไม่เบียดเบียนหรือเอาเปรียบผู้อื่น รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือสังคม หรือผู้ด้อยโอกาส
เมื่อเรามีมากกว่าหรือพอที่จะช่วยเหลือได้ โดยไม่ลำบากยากเข็ญ
|
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในสังคมให้อยู่อย่างมีความสุข
โดยใช้คุณธรรมความดีงามนำหน้า เพื่อการใช้ชีวิตอยู่ในกฎ กติกา ระเบียบของสังคม เมื่อนำมาเทียบเคียงกับการจัดพลศึกษาในสถานศึกษาให้แก่ ผู้เรียน
พบว่า มีการสอดแทรกและบูรณาการที่เกี่ยวกับการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
มีน้ำใจนักกีฬา มีความสมัครสมานสามัคคี เล่นกีฬาและออกกำลังกายตามกฎ กติกา
ระเบียบวิธีปฏิบัติ รวมทั้งการสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์ให้ผู้เรียน
ด้านการมีวินัย ความรับผิดชอบ ซื้อสัตย์สุจริต ตรงต่อเวลา
บริการผู้อื่นด้วยจิตใจที่เป็นสาธารณะ (Service mind) เป็นต้น
|